เมื่อลงทุนผ่านผู้ดูแลพอร์ทการลงทุน (PM) หรือผู้ให้บริการกลยุทธ์ (SP) คุณจำเป็นต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างกลยุทธ์และกองทุนเป็นอย่างดี โดยเราจะกล่าวถึงหัวข้อดังต่อไปนี้โดยละเอียดในบทความนี้
กลยุทธ์คืออะไร
ในกลยุทธ์ ผู้ให้บริการกลยุทธ์จะฝากเงินทุนของตนเองเข้าบัญชีและเทรดด้วยเงินจำนวนดังกล่าว คำสั่งซื้อขายจะได้รับการคัดลอกไปยังการลงทุนแต่ละรายการโดยใช้อัตราส่วนการคัดลอก (อิควิตี้การลงทุนหารด้วยอิควิตี้ของผู้ให้บริการกลยุทธ์)
กองทุนคืออะไร
ในกองทุน เงินของนักลงทุนทั้งหมดจะนำมารวมไว้ในบัญชีเดียว ผู้ดูแลพอร์ทการลงทุนจะซื้อขายด้วยเงินที่ลงทุนจากบัญชีนี้ คำสั่งซื้อขายจะจัดสรรไปยังการลงทุนแต่ละรายการตามสัดส่วนอิควิตี้ (อิควิตี้การลงทุนหารด้วยยอดรวมของการลงทุนทั้งหมด)
การเปรียบเทียบกลยุทธ์กับกองทุน
สรุปความแตกต่างที่สำคัญระหว่างกลยุทธ์และกองทุน
| กลยุทธ์ | กองทุน |
| ผู้ให้บริการกลยุทธ์ใช้เงินทุนส่วนตัวในการเทรด | ผู้ดูแลพอร์ทการลงทุนใช้เงินทุนที่ได้จากการลงทุนภายในกองทุนในการเทรด |
| การเปิดหรือปิดการลงทุนจะไม่ส่งผลต่อเงินทุนที่ใช้ในการเทรด | การเปิดหรือปิดการลงทุนในกองทุนจะส่งผลต่อเงินทุนที่ใช้ในการเทรด นั่นคือ การเปิดการลงทุนจะทำให้มีเงินทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่การปิดการลงทุนจะทำให้มีเงินทุนลดลง |
|
คำสั่งซื้อขายที่ดำเนินการโดยผู้ให้บริการกลยุทธ์จะถูกคัดลอกโดยใช้อัตราส่วนการคัดลอก ซึ่งคำนวณโดยการนำอิควิตี้การลงทุนหารด้วยอิควิตี้ของกลยุทธ์ แล้วจึงนำมาใช้คำนวณขนาดคำสั่งซื้อขาย อัตราส่วนการคัดลอกมีการคำนวณสำหรับแต่ละคำสั่งซื้อขายดังนี้ อัตราส่วนการคัดลอก = อิควิตี้การลงทุน / (อิควิตี้บัญชีซื้อขายของผู้ให้บริการกลยุทธ์ + ยอดรวม (ต้นทุนสเปรดของคำสั่งซื้อขายที่เปิดอยู่)) สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับสูตรคำนวณอัตราส่วนการคัดลอกได้ที่ลิงก์นี้ |
คำสั่งซื้อขายที่ดำเนินการโดย PM จะจัดสรรไปยังการลงทุนตามสัดส่วนของอิควิตี้ ซึ่งคำนวณด้วยการนำอิควิตี้การลงทุนหารด้วยยอดรวมการลงทุนทั้งหมด ส่วนแบ่งจะคำนวณสำหรับแต่ละคำสั่งซื้อขายดังนี้ ส่วนแบ่ง = อิควิตี้การลงทุน / ยอดรวมของอิควิตี้การลงทุนทั้งหมดในกองทุน |
| สามารถดูตัวอย่างหลักการของกลยุทธ์ได้ที่ลิงก์นี้ | สามารถดูตัวอย่างหลักการของกองทุนได้ที่ลิงก์นี้ |
|
คำสั่งซื้อขายของผู้ให้บริการกลยุทธ์จะไม่ได้รับผลกระทบเมื่อนักลงทุนปิดการลงทุนของตนเอง |
เมื่อการลงทุนถูกปิด (โดยนักลงทุนเองหรือโดยคำสั่ง Stop Out) คำสั่งซื้อขายของ PM อาจถูกปิดบางส่วน สามารถดูตัวอย่างสาเหตุของการปิดคำสั่งซื้อขายบางส่วนที่อาจเกิดขึ้นได้ที่ลิงก์นี้ |
|
นักลงทุนสามารถปิดการลงทุนได้ภายในไม่กี่นาที การลงทุนจะสิ้นสุดลงที่ราคาสุดท้ายของตลาด โปรดทราบว่าหากคุณมีคำสั่งซื้อขายที่เปิดอยู่ขณะที่ตลาดของสัญลักษณ์ดังกล่าวปิด และเหลือเวลาน้อยกว่า 3 ชั่วโมงก่อนที่ตลาดจะเปิดอีกครั้ง คุณจะไม่สามารถปิดการลงทุนนั้นได้ |
นักลงทุนที่ต้องการปิดการลงทุนจะต้องส่งคำขอไปยัง PM ที่จะปิดการลงทุนด้วยตนเอง หาก PM ไม่ดำเนินการใดๆ ภายใน 36 ชั่วโมงหลังจากส่งคำขอหยุดแล้ว ระบบจะปิดการลงทุนโดยอัตโนมัติ โปรดทราบว่าหากมีคำสั่งซื้อขายที่เปิดอยู่และตลาดปิด คุณจะไม่สามารถหยุดการลงทุนได้จนกว่าตลาดจะกลับมาเปิดอีกครั้ง การลงทุนจะสิ้นสุดลงที่ราคาสุดท้ายของตลาด |
| โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีติดตามและปิดการลงทุน และเกี่ยวกับการเปิดหรือปิดการลงทุนเมื่อตลาดปิด | |
|
ระยะเวลาการเรียกเก็บเงินคือหนึ่งเดือนตามปฏิทิน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันศุกร์สุดท้ายของเดือน (เวลา 23:59:59 UTC+0) และหลังจากนั้นจะเริ่มนับช่วงเวลาการเรียกเก็บเงินใหม่ทันที คำสั่งซื้อขายที่เปิดอยู่ของนักลงทุนจะถูกปิดและเปิดอีกครั้งโดยอัตโนมัติตามอัตราส่วนการคัดลอกโดยไม่มีค่าสเปรด โปรดอ่านเกี่ยวกับระยะเวลาการเรียกเก็บเงินสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อนี้ หากการลงทุนมีกำไร ค่าธรรมเนียมผลงานจะถูกหัก ณ เวลานี้ |
ระยะเวลาการเรียกเก็บเงินคือหนึ่งเดือนตามปฏิทิน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันศุกร์สุดท้ายของเดือน (เวลา 23:59:59 UTC+0) และหลังจากนั้นจะเริ่มนับช่วงเวลาการเรียกเก็บเงินใหม่ทันที คำสั่งซื้อขายของนักลงทุนจะไม่ถูกปิดเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเรียกเก็บเงิน จึงไม่ส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อขายของ PM หากการลงทุนมีกำไร ค่าธรรมเนียมผลงานจะถูกหัก ณ เวลานี้ |
|
ปริมาณการซื้อขายขั้นต่ำต่อคำสั่งซื้อขายในการลงทุนคือ 0.00000001 |
ปริมาณการซื้อขายขั้นต่ำต่อคำสั่งซื้อขายในการลงทุนคือ 0.0001 โปรดทราบว่าการลงทุนอาจมีปริมาณมากหรือน้อยกว่านั้น เนื่องจากการปัดเศษจุดทศนิยมตำแหน่งที่สอง |
| อิควิตี้รวมสูงสุดคือ 200,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่ารวมของอิควิตี้ทั้งหมดที่ได้รับการจัดการในกลยุทธ์ รวมถึงอิควิตี้ของทั้งผู้ให้บริการกลยุทธ์และนักลงทุน | อิควิตี้ทั้งหมดไม่จำกัด |
| ไม่จำกัดจำนวนการลงทุนในหนึ่งกองทุน | จำนวนการลงทุนที่เปิดอยู่ที่อนุญาตให้ลงทุนได้สูงสุดในหนึ่งกองทุนคือ 200 |
| จำนวนเงินขั้นต่ำที่ผู้ให้บริการกลยุทธ์จะต้องใช้เพื่อสร้างกลยุทธ์คือ 400 ดอลลาร์ | ผู้ดูแลพอร์ทการลงทุนไม่มีจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องใช้ในการสร้างกองทุน |
| Social Pro เป็นประเภทบัญชีที่สามารถใช้งาน | Pro เป็นประเภทบัญชีที่สามารถใช้งาน |
สามารถทำการซื้อขายได้บน
|
สามารถทำการซื้อขายได้บน
|
|
การตั้งค่าเลเวอเรจสูงสุดที่สามารถใช้ได้ ได้แก่ 1:50, 1:100, 1:200 |
การตั้งค่าเลเวอเรจสูงสุดที่สามารถใช้ได้ ได้แก่ 1:2, 1:50, 1:100, 1:200 |
คุณสามารถอ่านรายละเอียดและดูตัวอย่างของหลักการทำงานแต่ละประเภทได้โดยคลิกลิงก์ด้านล่างนี้เพื่อไปยังบทความของเรา
ข้อคิดเห็น
0 ข้อคิดเห็น
บทความนี้ถูกปิดการแสดงข้อคิดเห็น